บทสดุดีบนแท่งหินโบราณ
๏ ทะเลดาวมืดดำล้ำลึก
เกลียวกะพริบผนึกคึกคลื่น
ม้วนขดเหนือขอบฟ้าของค่ำคืน
ดื่นดารดาษสาดโปรย
เป็นฝนดาวพราวร่วงควงหล่น
ในม่านหม่นรัตติกาลผ่านโผย
เรียงรันร้อยพันสายรายโรย
พัดโชยกล่อมวิญญาณสุสานชรา
เข็มฝนต้องขุยดินกระเด็นกระดอน
เป็นประกายพรายซ้อนในพงหญ้า
เสาหินหักเอียงผ่านกาลเวลา
สลักว่า 'กวีนิรนาม'
เสียงปืนกระหน่ำในค่ำเงา
เปลวเพลิงพลุ่งเผาเป็นเงาข้าม
ซากศพเสรีภาพอาบเลือดลาม
การเข่นฆ่าในนามของความดี
ดวงตาเด็กน้อยละห้อยมอง
เสียงร่ำร้องในหัวใจอึงมี่
กำสองมือเคลือบฝุ่นธุลี
ส่ำคีตาประหัตประหารลั่นลานรบ
เศษกระเบื้องอุดมการณ์รานแหลก
บนเนินดินแบ่งแยก มิยอมสยบ
ตะเกียกตะกายป่ายพาองคาพยพ
พานพบในพลัดพรากฝากรอย
เขาคิดและเขียนและเขียนและเขียน
บทเรียนประวัติศาสตร์เศร้าสร้อย
จากภาพเงาของหนุ่มน้อย
จนค่อยค่อยเชื่องช้าชราวัย
ใต้ขุยดินแห่งดวงดาว
เหน็บหนาวในไออุ่นฝุ่นดาวใส
เหล่าหนอนอุดมคติย้อนชอนไช
ไขว่ไขว่ในเบ้าตากวี
ทอดกายใต้สุสานนานเกินนับ
หลับอยู่ในความตื่นกับคืนที่
แสงดาวหรุบหรู่ลงทุกที
บทสดุดีหน้าหลุมศพไม่จบความ๚
@
เจริญขวัญ
poem
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น