มิใช่ภาคภูมิ
เมื่อเราเดินทาง ขณะลิ่วเลื่อนไปบนพื้นถนน โดยมีปีกนก ลูกหมาก โช้คอัพรองรับแรงสั่นสะเทือนอยู่เบื้องล่าง ช่วยให้เราเลื่อนลิ่วไปหน้าอย่างนุ่มนวลราวเหิรบิน เรามองท้ายรถคันหน้า แนวถนน ต้นไม้ริมทาง กระทั่งทิวทัศน์สองข้างทางโดยมิพักกังวลว่าระนาบตาจะกระตุกขึ้นลงด้วยแรงสะเทือน การเดินทางที่นุ่มนวลนั้นชวนเพลิดเพลิน
แน่ล่ะ จุดหมายยังอีกไกล
แท็กอักษรส่งความจากพี่หนูจัน เป็นข่าวคราวว่างานเขียนสำแดงอยู่บนหน้ากระดาษสี่ยกของกุลสตรี
เห็นเพื่อน ๆ แสดงความยินดี ข้าพเจ้ายิ้มกริ่ม
ใช่สิ
เป็นเวลาที่กัลยาณมิตรพึงบอกความยินดีแก่กันเมื่อความมุ่งมั่นเดินทางมาถึงตำแหน่งที่ทางอันน่านิยมชมชื่น
แต่สำหรับกับข้าพเจ้า
เปล่าเลย
การมีงานตีพิมพ์บนหน้านิตยสารหามีความหมายใดนอกไปจากมีงานตีพิมพ์บนหน้านิตยสาร ข้าพเจ้าไม่เคยมีงานตีพิมพ์บนหน้านิตยสาร และไม่เคยคิดภาคภูมิกับสิ่งนี้ หากจะมีประโยชน์โภชน์ผลอยู่บ้างก็ที่จะเป็นหลักกิโลฯ บอกให้รู้ว่าการเขียนเดินทางมาถึงตำแหน่งแห่งหนอันเป็นมาตรฐานตีพิมพ์แล้ว (ซึ่งก็หาใช่เรื่องน่ายินดีใด มาตรฐานตีพิมพ์ของเรายุคนี้ เต็มด้วยตัวสะกดผิดพลาดประดาษดื่น) อย่างน้อยฐานะนักหัดเขียน มีมืออาชีพสักคนบอกกล่าว "โอเค ตัวหนังสือของคุณเข้ารูปลงรอยดีแล้ว สมควรแก่การเผยแพร่ต่อสาธารณะชน" นั่นนับเป็นการยืนยันที่มีน้ำหนัก สมควรแก่ความยินดี
ข้าพเจ้ายิ้มกริ่ม
ความยินดีของข้าพเจ้าสมควรหน้าตาเยี่ยงไร ก็ในเมื่อข้าพเจ้าหามีความยินดีอยู่เลย
มีเรื่องสั้นลงหน้านิตยสารทุกปักษ์ แต่เพราะจำนวนเล่มน้อยนิด ขณะจำนวนเรื่องมาจากทั่วประเทศ มีผู้เขียนเวียนผ่านคนแล้วคนเล่า โดยมากผ่านมาลับเลย น้อยคนที่จะมีงานหวนกลับมาและกลับมา โดยมากเห็นชื่อเพียงครั้งแล้วไม่ได้เห็นอีกเลย ตะกร้าความหวังของพวกเขากองล้นด้วยก้อนกระดาษว่างเปล่า วันเวลาของความทุ่มเทพยายามเลาะไหลลงแม่น้ำสูญหายไปในมหาสมุทรแห่งความหลงลืมลึกล้ำกว้างใหญ่ และถูกแปรเปลี่ยนเป็นพลังดูแลชิวิตดูแลครอบครัวเมื่อเวลามาถึง ตัวหนังสือเหล่านั้นจะกลายเป็นเรื่องเล่าว่าหนหนึ่งเคยทุ่มเทพยายามติดตามหาฝัน
ข้าพเจ้าไม่เคยเห็นด้วยกับสิ่งที่กล่าวมา ข้าพเจ้ามองไม่เห็นว่าฝันที่ตามหากันมีความหมายใด เป็นความจริงเสียยิ่งกว่าจริง เราเลี้ยงชีพไม่ได้กับเขียนเรื่องสั้น และเป็นงานอดิเรกที่สูญเวลามากมาย พิมพ์เรื่องสั้นบนหน้านิตยสารหนึ่งเรื่อง อีกกี่เดือนจึงจะลงอีกเรื่อง ปีละกี่เรื่อง กี่ปีจึงจะครบสามสิบเรื่อง เพื่อจะรวมเล่มสักเล่ม และเพื่อจะขายไม่หมดสามพันเล่ม
ไม่ใช่เรื่องน่าเล่น
(หากจะบอกว่าเขียนเอาสนุก หมดสนุกจะเป็นไรมีก็แค่เลิกเขียน อย่างนั้นเป็นคนละกรณี)
หากเป้าหมายคือตีพิมพ์บนหน้านิตยสาร การเดินทางก็จะล้มเหลว (เยี่ยงหลายคนยกเลิกการเดินทาง)
ข้าพเจ้าจึงหามีความยินดีใด แต่ที่ยิ้มกริ่ม แน่ล่ะย่อมมีบางสิ่งบางอย่างระหว่างวาระนี้
เมื่อเราเดินทาง นอกจากเหลือบมองสองข้างทาง เรายังแอบเหลือบมองหลักกิโลฯ ด้วยความสงสัยใคร่รู้ว่ามาไกลเท่าไรแล้ว ใกล้จุดหมายมากน้อยเพียงไร มีเรื่องสั้นตีพิมพ์คงเป็นคล้ายหลักกิโลฯ เขียน (แน่ล่ะ การเหลือบมองหลักกิโลฯ หาใช่เรื่องน่ายินดีใด) แต่ขณะผ่านหลักกิโลฯ พี่หนูจันไม่ลืมปีกนก ลูกหมาก คันชักคันส่ง โช้คอัพซึ่งทำให้การเดินทางเป็นไปโดยนุ่มนวล นั่งขับโดยระนาบตามิสั่นสะเทือนจนเสียภูมิทัศน์ไป การไม่หลงลืมและหมั่นดูแลช่วงล่าง (ซึ่งไม่เคยเลยสำแดงให้ใคร ๆ รู้เห็น) จะทำให้การเดินทางครั้งต่อ ๆ ไปเป็นไปโดยราบรื่น นั่นนับเป็นเรื่องน่ายินดี นั่นนับเป็นเรื่องสมควรแก่อาการยิ้มกริ่ม
หลักกิโลฯ ไม่ใช่จุดหมาย
บางครั้งจุดหมายอาจไม่มีอยู่จริง
มิตรภาพสองฝากทางต่างหากอาจคือทัศนียรสที่แท้ของการเดินทาง
ไปต่อขะรับพี่หนูจัน
คารวะ
editor's note
Post a comment
Next Post
บทความใหม่กว่า Previous Post
บทความที่เก่ากว่า
บทความใหม่กว่า Previous Post
บทความที่เก่ากว่า
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น